วิธีกำจัดไรฝุ่นแบบง่ายๆ พร้อมแนะนำเครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุด

การใช้ชีวิตในบ้านที่สะอาดและปราศจากสารก่อภูมิแพ้เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะไรฝุ่นที่มักเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจ ไรฝุ่นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาศัยอยู่ในที่นอน หมอน โซฟา และพรม โดยอาหารหลักของมันคือเศษผิวหนังของมนุษย์ ไรฝุ่นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะเป็นสาเหตุหลักของ อาการแพ้ไรฝุ่น เช่น คัดจมูก ไอ จาม หอบหืด และผื่นคัน การกำจัดไรฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพจึงจำเป็นต่อสุขภาพของคุณและครอบครัว

วิธีการกำจัดไรฝุ่นที่ได้ผล
เพื่อให้บ้านของคุณปลอดภัยจากไรฝุ่น ควรใช้วิธีการกำจัดที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละบ้าน ตั้งแต่การทำความสะอาดเครื่องนอน ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีช่วยในการกรองอากาศ วิธีต่อไปนี้จะช่วยลดปริมาณไรฝุ่นและทำให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์มากขึ้น
1. ซักและทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำ
หนึ่งในวิธีกำจัดไรฝุ่นในห้องนอนให้ได้ผล คือ การซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มอย่างสม่ำเสมอ
- ซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป
- ตากแดดให้แห้งสนิท หรือใช้เครื่องอบผ้า
- ใช้ปลอกหมอนและปลอกที่นอนกันไรฝุ่นเพื่อลดการสะสมของมัน
2. ใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบมีตัวกรอง HEPA
ไรฝุ่นและมูลของมันมีขนาดเล็กมากและสามารถลอยฟุ้งในอากาศได้ ดังนั้นการใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA สามารถช่วยกำจัดไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ควรดูดฝุ่นที่นอน โซฟา และพรมสัปดาห์ละครั้ง
- หลีกเลี่ยงเครื่องดูดฝุ่นที่ไม่มีแผ่นกรอง HEPA เพราะอาจทำให้ไรฝุ่นฟุ้งกระจายมากขึ้น
3. ควบคุมความชื้นในบ้าน
ไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้น ดังนั้นการลดความชื้นในบ้านจะช่วยป้องกันการเพิ่มจำนวนของมัน
- ควรรักษาความชื้นในบ้านให้อยู่ที่50% หรือต่ำกว่า
- ใช้เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier) หรือเปิดแอร์ช่วยลดความชื้น
- เปิดหน้าต่างระบายอากาศบ่อยๆ เพื่อให้บ้านแห้งและอากาศถ่ายเท
4. ใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อลดไรฝุ่นในอากาศ
เครื่องฟอกอากาศลดไรฝุ่น ได้จริงหรือ? คำตอบคือได้ หากเลือกเครื่องที่มีแผ่นกรอง HEPA
- ไส้กรอง HEPA กรองไรฝุ่นได้จริงไหม? คำตอบคือ ใช่! เพราะสามารถกรองอนุภาคเล็กถึง0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97%
- ควรเลือกเครื่องที่มีค่า CADR สูงเพื่อให้สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เปิดเครื่องฟอกอากาศเป็นประจำ โดยเฉพาะในห้องนอนเพื่อช่วยลดอาการแพ้ไรฝุ่น
5. ทำความสะอาดพัดลม แอร์ หรือเครื่องฟอกอากาศเป็นประจำ
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับอากาศ เช่น พัดลม แอร์ และเครื่องฟอกอากาศ อาจเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นและไรฝุ่น หากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ
- ล้างแผ่นกรองแอร์เดือนละครั้ง
- ทำความสะอาดใบพัดพัดลมและเครื่องฟอกอากาศทุก 2-3 สัปดาห์
- เปลี่ยนไส้กรอง HEPA ของเครื่องฟอกอากาศตามคำแนะนำของผู้ผลิต
วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสำหรับกำจัดไรฝุ่น
เครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดปริมาณไรฝุ่นในอากาศ การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ระบบกรอง ขนาดห้อง และฟังก์ชันเสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ
1. ต้องมีแผ่นกรอง HEPA เพราะสามารถดักจับไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เลือกขนาดให้เหมาะกับห้องหากใช้ในห้องนอน ขนาดเครื่องควรเหมาะกับขนาดห้อง (ดูที่ค่า CADR)
3. มีฟังก์ชันเสริม เช่น ไอออน หรือ UVเครื่องที่ปล่อยประจุไอออนสามารถช่วยให้ฝุ่นเกาะตัวและตกลงพื้น ทำให้ดูดฝุ่นออกได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้บางรุ่นมีแสง UV ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่น
4. เสียงเงียบและประหยัดพลังงาน ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนที่ทำงานเงียบเพื่อให้ไม่รบกวนเวลานอน

แนะนำเครื่องฟอกอากาศ Blueair สำหรับกำจัดไรฝุ่น
หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนช่วยกำจัดไรฝุ่นดีที่สุด ขอแนะนำแบรนด์Blueair ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำที่มีเทคโนโลยีกรองอากาศขั้นสูง
ทำไมต้องเลือก Blueair?
- ใช้ HEPASilent™ Technology ที่รวม HEPA และเทคโนโลยีไฟฟ้าสถิต ช่วยดักจับไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ดีขึ้น
- ค่า CADR สูง สามารถฟอกอากาศได้เร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้าง
- เสียงเงียบและประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน
- ตัวกรองเปลี่ยนง่ายไม่ยุ่งยากในการดูแลรักษา
รุ่นแนะนำของ Blueair สำหรับคนแพ้ไรฝุ่น
Blueair DustMagnet 5440iเหมาะสำหรับขนาดห้องถึง 79 ตร.ม ออกแบบมาให้กลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์ กรองฝุ่น PM2.5 และไรฝุ่นได้ถึง 99.97% และยังมี Pre-filter ที่มีประจุซึ่งดึงดูดฝุ่นเหมือนแม่เหล็ก

Blueair Blue Max 3650iเหมาะสำหรับขนาดห้องถึง 141 ตร.ม รุ่นใหม่ล่าสุดที่กรองไรฝุ่น เชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรียได้รวดเร็วสูงสุดภายใน 12.5 นาที ในขณะที่มีเสียงรบกวนเพียงแค่ 18-28 dB
Blueair HealthProtect™ 7710iเหมาะสำหรับขนาดห้องถึง149 ตร.ม รุ่นท็อปของแบรนด์ที่มีฟีเจอร์ครบ ดักจับฝุ่นอนุภาคเล็กถึง 0.1 ไมครอน ดูดซับกลิ่น ควัน สารเครมี และยังมีการันตีผลทดสอบจาก MRIGlobal, USA กำจัด โควิดในอากาศได้ 99.99%
สรุป
การกำจัดไรฝุ่นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและครอบครัว โดยวิธีที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การซักเครื่องนอนด้วยน้ำร้อน ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA ควบคุมความชื้นในบ้าน และใช้เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสม การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ดี ควรพิจารณาแผ่นกรอง HEPA ขนาดของเครื่อง และฟังก์ชันเสริม เช่น ไอออนหรือแสง UV ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไรฝุ่น การดูแลรักษาความสะอาดอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดปัญหาสุขภาพจากไรฝุ่นและทำให้บ้านของคุณเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น